วิธีจีบสาวขั้น 4 (ตอน 2: วิธีการขอเป็นแฟน!)

วิธีการบอกรัก

ประกอบไปด้วย 2 ขั้นตอนหลักๆ
1. บอกรัก
2. ถามฝ่ายตรงข้าม
3. ขอเป็นแฟน
คุณอาจจะทำได้โดยการโผเข้าไปตามตรงๆ แต่คุณจะต้องมั่นใจโคตรๆ และต้อง มีลีลาพอสมควร โดยเฉพาะการไม่ปล่อยให้เธอได้ตั้งตัว จะใช้ได้ผลดีกับ “เพื่อนสนิท” เช่น
ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน คุณหันหลังไปแล้วก็หันกลับมา..
ช: เอ่อ ขอพูดอะไรหน่อยดิ
ญ: ไร
ช: เราว่าเราชอบปิ๊กอ่ะ
ญ: … –> เขิล+อึ้งเล็กน้อย
ช: เออ ก็บอกให้รู้ไว้เฉยๆ .. –> คล้ายๆกับเตรียมตัวชิ่ง แต่จริงๆแล้วเป็นการบังคับให้เธอรีบโต้ตอบ
ญ: เดี๋ยว … (น่าน ได้ผลจริงๆด้วย)
ช: มีไร (ทำหน้าตาย)
ญ: เรา ..เอ่อ … (ผู้หญิง 95% ไม่กล้าพูดคำนี้)
ช: ชอบเราป่ะ
ญ: เอ่อ ก็ ยังไม่ได้ อื่อ..อื้อ (พูดไม่ออกแล้ว หน้าแดงก่ำ )
ช: (ยิ้ม) งั้นเราลอง…คบกันดีมั้ย?
ญ: ก็เอ่อ ..
ช: แปลว่าได้ใช่ป่ะ (ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์)
ญ: นี่แหนะ!! ตาบ้า..++ มาทำเป็นรู้ดี หนอยยยย…
แล้วทั้งสองคนก็ไล่จี้เอวกัน กุ๊กกิ๊กหนุงหนิงเป็นอันจบพิธี
หรือในกรณีที่คุณพกความั่นใจมาไม่เต็มร้อยเท่าอย่างแรก และความสัมพันธ์ของคุณมันกระหนุงกระหนิงกันอยู่แล้ว จนไม่จำเป็นต้องเล่นมาดขรึม เพราะไม่เหมาะกับรูปแบบความสัมพันธ์ คุณก็ต้องสรรหาคำพูดหลอกล่อ เช่น..
ช: “เอ เฟินให้ตุ๊กตาหมีพี่คนนั้นเหรอ แอ่…”
ญ: “บ้า คิดอะไร ไม่มีไรสักหน่อย วันเกิดเค้า”
ช: “จริงอ๊ะ .. จริงอ๊ะ…เดี๋ยวพี่จะไปป่าวประกาศ”
ญ: “บ้า อย่านะพี่บี เฟินมีคนที่ชอบของตัวเองอยู่แล้ว เอ๊ย พูดเล่น อิอิ”
ช: “อ้าว จริงเหรอ ว้า..งี้พี่ก็อกหักดิ” –> หมาหยอกไก่เล็กน้อย
ญ: “ก็ไม่แน่..” –> ไก่ก็เริ่มเล่นด้วย
ช: “ไม่แน่…”
ญ: “…ไปแล้ว ต้องไปทำงานต่อ” –> พยายามตัดบท
ช: “เดี๋ยวนะ เฟินชอบผู้ชายใส่แว่นรึเปล่า” –> ต้องสวนกลับทันที!
ญ: “มั้ง..แต่ก็ไม่ได้จำเป็น ทำไมเหรอ..”
ช: “พี่ก็ชอบ..ผู้หญิงใส่แว่น” (น้องเฟินก็ใส่แว่น)
ญ: “อ่าวเหรอ ไม่เห็นเคยบอกกันเลย จะได้หาให้”
ช: “ไม่ต้องหาหรอก มีอยู่แล้วแหละ..ไม่ใกล้ไม่ไกล”
ญ: ” …(เขิล)” –> จริงแล้วเค้าก็รู้อยู่แล้วแหละ แต่แกล้งทำฟอร์ม
ช: “เฟินว่าพี่บอกรักเค้าดีมั้ย”
ญ: “ก็แล้วแต่ดิ…”
ช: “ไม่เอาอ่ะ พี่เขิล”
ญ: “เขิลทำไมล่ะ..”
ช: “ก็..พี่กลัวเค้าปฏิเสธอ่าดิ”
ญ: “กลัวทำม๊าย..เค้าก็คงชอบพี่อยู่เหมือนกันแหละ”
ช: “รู้ได้ไง”
ญ: “ก็พี่ออกจะ.. เป็นคนดี หน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้ เก่ง ฉลาด…”
ช: “ถ้าจะให้เฟินเป็นแฟนนี่เอาเลยใช่มั้ย”
ญ: “ก็….. พี่ไม่ได้ชอบเฟินหนิ” –> น่าน ฝ่าย ญ ก็ play safe แฮะ
ช: “ทำไมจะไม่ชอบล่ะ”
ญ: “ก็ เฟินไม่ได้น่ารัก” (เหอๆๆ คุณเธอนี่ ..จริงๆเลย)
ช: “เหรอ พี่ว่าเฟินน่ารักอ่ะ แล้วก็..พี่ก็..ชอบเฟินด้วย”
ญ: “ขอบจายนะ ฮือๆ เรารู้ตัวดี ไม่ต้องมาแกล้งชม” (เล่นตัวต่ออีกวุ้ย)
ช: “เฟินชอบพี่รึเปล่า” –> โหมดซีเรียสมาแล้ว
ญ: “เอ่อ ชอบแบบไหน..”
ช: “ชอบแบบที่พี่ชอบเฟินอ่ะมั้ง”
ญ: “อา .. ก็…ชอบแหละ…”
จากนั้นก็ดำเนินการขั้นสาม -เชิญชวนมาเป็นแฟนกัน ตามแบบตัวอย่างที่หนึ่งได้ต่อไป หรือว่าจะสรรหาอะไร ออกมา เช่น.. ขออนุญาตก๊อปมาหน่อยเหอะ ….”เวลาไปเจอเพื่อน จะให้แนะนำเธอว่าอะไรดี” โอ๊ย ชอบมาก ขอบอกๆ
นั่นก็เป็นเพียงแค่ตัวอย่างบทสนทนา คุณจะต้อง adapt เองให้เข้ากับสถานการณ์ โดยใช้ไหวพริบ จุดที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องเชิงบังคับเค้าให้พูดออกมาให้ได้ว่าเค้าก็ชอบคุณด้วย มิฉะนั้น ก็เท่ากับเป็นการบอกรักอย่างเดียวโดยที่ไม่ได้ถามกลับ
บอกรักอย่างเดียวไม่ได้หรอ? ..คำ ตอบคือ “ไม่ได้” หากคุณคิดจะเป็นแฟนกับเธอ หากคุณตัดสินใจที่จะบอกอะไรเธอแล้ว และต้องการที่จะสานต่อ จะต้องมาควบคู่กับการยินยอมของอีกฝ่าย เพราะการ “บอกรัก” ไม่ได้ทำให้ “ผู้หญิงที่ไม่รักคุณ” พูดออกมาว่า “เธอไม่ได้รัก”
กรณี เหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง..ที่ผู้ชายบอกรัก แล้วก็ assume เอาเองว่าผู้หญิงรับรู้ และเมื่อเธอไม่ได้พูดอะไร ยังคงไปกินข้าว ดูหนัง กับเขาเสมอ ก็แปลว่าเค้าชอบผมล่ะสินะ …ผิด!!! ผิดมหันต์!! ผู้หญิงเกินครึ่งไม่ได้ตรงไปตรงมาอย่างที่คุณคิด ไม่ว่าจะเป็นเพราะเธอ “กั๊ก” หรือเธอต้องการจะรักษาความสัมพันธ์ฉันเพื่อนก็ตาม แต่ที่แน่ๆคือมีไม่น้อย  ..แล้วผลเป็นไง?
“คาราคาซัง” ครับ
คาราคาซังแล้วค่อยมาถามอีกไม่กี่อาทิตย์ต่อมามันก็โอเคแหละ บางคนทิ้งไว้นาน…ระหว่างนั้นก็ทำตัวคล้ายๆ “แฟน” แต่ “ไม่ได้เป็นแฟน” มาถามอีกที ผู้หญิงก็คิดในใจ…”เอ่อ ไม่เอาดีกว่า” เพราะ การเป็นแฟนกัน (แม้ในทางพฤตินัยอย่างเดียว) มันไม่ได้สนุกเท่ากับการจีบกันหรอก ข้อนี้หลายๆคนที่มีคู่มานานแล้วย่อมรู้ดี การใกล้ชิดกันมากขึ้น ทำให้ต่างฝ่ายต่างเรียนรู้ข้อเสียของแต่ละคนมากขึ้น โดยเฉพาะ ผู้หญิงที่เป็นฝ่ายถูกจีบ เค้าก็จะมองเห็นข้อแย่ๆ เกี่ยวกับผู้ชายที่มาจีบเค้าเพิ่มขึ้น ..โอกาสที่เค้าจะตอบตกลงหากคุณทิ้งช่วงไว้สักสามเดือน หกเดือนเนี่ย ยิ่งน้อยลง..ลดลงทุกๆ วัน  (นอกจากคุณจะดีแสนดี ไร้ที่ติ จนเธอประทับใจเหลือเกิน นั่นอีกเรื่อง)
แต่ที่พูดมานี้ก็ขอย้ำอีกครั้งนะว่า คุณจะต้องถึงจุด peak จริงๆ คือคุณมั่นใจว่าเธอจะชอบคุณมากๆจริงๆ ไม่ใช่แค่ยอมไปกินข้าวด้วย ดูหนังด้วยแบบในขั้นสาม คุณต้องมั่นใจว่าเธอพร้อมที่จะเป็นแฟนแล้วล่ะ เพราะถ้าคุณสองคนยังไม่ peak เธออาจจะต้องการเวลาในการนึกทบทวนดูอีกนานๆก็ได้ กลายเป็นแห้วไปอีกซะนี่..
แต่ถ้าแห้วล่ะจะทำไง!!!? ถ้าเธอบอกไม่รัก .. หรือไม่พร้อม  ทั้งๆที่คุณคิดว่าพร้อมแล้วล่ะก็….. ติดตามครั้งต่อไปนะฮะ สวัสดี

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *