ไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีประวัติศาสตร์หน้าใหม่เกิดขึ้นอีกแล้ว เมื่อ Sadiq Khan จากพรรค Labour ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีลอนดอน Khan ได้รับเลือกตั้งอย่างถล่มทลายถึง 1.1 ล้านเสียง ซึ่งเป็นคะแนนเสียงที่มากที่สุดที่ผู้สมัครเคยได้รับในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของอังกฤษ สิ่งหนึ่งที่มีการพูดถึงมากที่สุด คือการที่เขาเป็นชาวมุสลิมคนแรกที่เป็นมุสลิม
อันที่จริงแล้ว ในยุคปัจจุบันที่ลอนดอนเป็นเมือง multi-cultural, multi-religious และมีประชากรชาวมุสลิมถึง 12% (คิดเป็น 40% ของชาวมุสลิมทั่วประเทศอังกฤษ) ศาสนาไม่ควรจะเป็นประเด็นในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าคู่แข่งของ Khan ไม่หยิบประเด็นนี้มากล่าวถึง
ในช่วงที่ Sadiq Khan ลงสมัครเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีลอนดอน คู่แข่งของเขา Zac Goldsmith จากพรรค Conservative และ David Cameron เองก็ได้แคมเปญโจมตี Khan โดยพยายามจะโยงเขาเข้ากับมุสลิมหัวรุนแรง แต่ผลที่ได้รับกลับเป็นว่า Goldsmith (ซึ่งภาพที่ปรากฏเป็น Mr. Nice Guy) โดนกล่าวหาว่าเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติและคะแนนนิยมของ Khan กลับเป็นฝ่ายพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในที่สุด
เช่นเดียวกับชาวลอนดอนจำนวนมาก ครอบครัวของ Khan เป็นผู้อพยพจากปากีสถาน พ่อของเขาเข้ามาตั้งรกรากอยู่ลอนดอนก่อนที่ Sadiq เกิดไม่นาน โดยยึดอาชีพขับรถบัสมานานกว่า 25 ปี Sadiq Khan เกิดและโตที่ลอนดอนในเขต Tooting ต่อมาเขาเข้าเรียนกฎหมาย และยึดอาชีพทนายความสายสิทธิมนุษยชน
จากนั้นในปี 2005 เขาสมัครเป็น ส.ส. พรรค Labour ตอนอายุ 34 ต่อมาในช่วงของรัฐบาล Gordon Brown ปี 2009 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีด้านคมนาคม ทำให้เป็นรัฐมนตรีใน Cabinet คนแรกในประวัติศาสตร์อังกฤษที่เป็นชาวมุสลิม
Sadiq Khan เลือกที่จะสาบานตนรับตำแหน่งนายกเทศมนตรีลอนดอนที่ Southwark Cathedral ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำเธมส์ และอยู่ไม่ไกลจากถิ่น Tooting ที่ Khan เติบโตมา พิธีการนี้มีทั้งผู้นำของศาสนาคริสต์และยิวเข้าร่วม การจัดพิธีที่ Southwark Cathedral (แทนที่จะเป็น City Hall) นี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นการประกาศให้ชาวลอนดอน (และทั่วโลก) เห็นว่า เขาเป็น “Mayor of all Londoners” อย่างที่เขากล่าว ไม่ใช่แค่ศาสนาใด ศาสนาหนึ่ง
Ian McKellen ดาราอังกฤษ (X-Men, Lord of the Ring) ที่ร่วมแสดงความยินดีกับ Khan ก่อนเข้าพิธีที่ Southwark Cathedral กล่าวว่า “การมีนายกเทศมนตรีเป็นชาวมุสลิมเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเมือง ผมหวังว่าภาพนี้จะกระจายไปทั่วโลกเพื่อแสดงให้เห็นว่าอังกฤษเป็นประเทศที่สันติ ไม่ว่าคุณจะมีเชื้อชาติใด นี่เป็นสิ่งที่สวยงาม”