วิธีจีบสาวขั้น 4 (ตอน1: ตกลงเขาชอบเรามั้ยเนี่ย)

เขียนเมื่อ 6 มี.ค. 2006
จากวิธีจีบสาวขั้น 3 ได้กล่าวไว้ย่อๆ ว่า จากขั้นนั้นเป็นขั้นที่เตรียมตัวบอกรัก แต่ก่อนคุณจะบอกรัก คุณจะต้องสำรวจก่อนว่าเธอชอบคุณจริงๆรึเปล่า ไม่งั้นนี่แห้วกระป๋องรับประทาน แต่อย่างที่บอกไปในขั้น 3 นั้นว่า ปฏิกิริยาของสาวแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนแทบไม่แสดงออก บางคนก็กระดี๊กระด๊า …วิธีที่คุณจะรู้ก็คือการทดสอบเธอเท่านั้น โดยสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองจากการกระตุ้นต่างๆของคุณ (กลับไปอ่านขั้น 3 ถ้าลืม) แต่สิ่งที่จะเขียนต่อไปนี้นั้นเป็นสิ่งที่ คุณอาจเห็นไม่ได้ด้วยตาของตัวเอง — แต่อาจสังเกตได้ โดย “คนรอบตัว” ของเธอ
ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจว่า หลายๆกรณี คุณไม่อาจรู้ด้วยตัวเองเพราะว่าเธอจะไม่แสดงออกกับคุณ ผู้หญิงส่วนใหญ่สามารถเก็บอาการได้ดีจนคุณไม่อยากจะเชื่อ หรือไม่เธอก็แสดงออกบ้างแล้วแต่คุณก็ยังมองโลกในแง่ร้ายต่อไป (ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรกระทำบ้าง) ผู้หญิงที่คุณกำลังจีบ..มักจะแสดงทีท่าว่าไม่สนใจคุณเท่าไหร่ แม้ว่าในใจเธอจะเต้นตุบตับๆ เป็นคุณอยู่ทุกวินาที (อี๋..แหวะ เอ่อ ผู้หญิงก็ทำตัวเลี่ยนเป็นเหมือนกันนะ)  เนื่องด้วยเธอก็มีวิธีมัดใจหนุ่มของเธอ แต่เราจะไม่สอน เพราะคุณไม่จำเป็นต้องเรียน เดี๋ยวแผนเราจะแตก.. เอ๊ย ..พูดเล่น ก็กำลังสอนอยู่นี่ไง!!
เอาล่ะ..คุณจำเป็นจะต้องสืบ โดยหลายครั้งคุณจะต้องพึ่งคนอื่นถ้าจำเป็น กรุณาพึ่งคนที่ไว้ใจได้ที่สุด…

“ผมไม่ไว้ใจใครเลย เพื่อนเธอต้องบอกเธอแน่ๆ” – ปัญหาซ้ำซากของหนุ่มโสด แล้วเค้าก็มักจะลงเอยด้วยการบอกเพื่อนสนิทของ “ตัวเอง” (ซึ่งเป็นหนุ่มโสดด้วยกันเนี่ยแหละ) ว่าชอบน้องแอน น้องแน้ต น้องกิ๊ก อย่างโง้นอย่างงี้ จะทำไงดีวะมึง ผู้ชายอ่ะ..เพื่อนคุณอ่ะ..ช่วยคุณไม่ได้เท่า “เพื่อนสาวของเธอ” หรอกจะบอกให้

“ถ้าเพื่อนเธอบอกเธอจะเป็นอะไรมั้ย”

กรณีนี้หลายคนคิดหนัก แต่ผู้เขียนแนะนำว่า บอกก็บอกสิคุณ คุณจีบเธอมาถึงขั้นสามแล้วเนี่ย เธอรู้อยู่แล้วล่ะถ้าไม่ได้โง่จนเกินไป เธอรู้อีกจะเป็นไร เพราะคำพูดที่ออกจากปากเธอนั้น = คำพูดในใจคุณ ไม่ใช่ คำพูดจากปากคุณ  มันไม่ concrete พอ คำถามคือ..คุณจะเก็บความรักนี้ไว้ทำไม? ..”เผื่อแห้ว จะได้ไม่หน้าแตก” (คำตอบ?) เชื่อหรือไม่ว่า หากรักครั้งนี้แห้ว เพื่อนเธอจะบอกเธอหรือไม่ก็ตาม คุณจะสามารถกลับเป็นเพื่อนอย่างเดิมได้เท่ากับที่คนที่อยู่ในขั้น 3 เพราะ ตั้งแต่ไปออกเดท ดูหนัง ฟังเพลง อะไรพวกนั้นสองต่อสองกันน่ะ ตั้งแต่ขั้นสาม กันน่ะ… ย้ำอีกครั้งว่า ไม่รู้ก็โง่ตายแล้วจ้า…โอเค แต่มันก็มีข้อแม้!! เป็นข้อแม้ที่สำคัญมาก …
คำว่า “ไว้ใจ” (สำหรับสายสืบคนนั้น) ในที่นี้หมายความว่า มั่นใจว่าเพื่อนคนนั้นจะ support คุณ เข้าข้างคุณ เชียร์คุณ.. ไม่ใช่ยุยงส่งเสริมในทางตรงกันข้าม เค้าควรจะเป็นคนที่ “เออ พี่ x นี่เค้าก็ดีนะวาว” “เหรอๆ อืม..คิดดูก่อน” ไม่ใช่ “อย่าไปคบมันเลย ไอ้นี่มันหน้าหม้อ หูดำ อ้วนเป็นตุ่ม หน้าตาอย่างกะคางคก ใครได้เป็นสามีต้องชี้ช้ำใจไปจนตาย…” “อ่อ เหรอ ขอบคุณที่เตือน”  ไม่งั้นความซวยจะมาเยือน ล้างซวยสามปีเจ็ดปีก็ไม่หาย…
คงไม่ต้องสอนว่า เพื่อนที่เข้าข้างคุณนั้นดูยังไง สงสัยต้องเปิดซีรี่ส์อีกตอน ..วิธีอ่านใจมนุษย์ – -”
เอาล่ะ มาถึงขั้นตอนการสืบแล้ว กรุณาถ่ายทอดวิชามารไปยังสายสืบของคุณให้ดีๆ ให้สายสืบของคุณสังเกตว่า “เธอ”(เป้าหมาย) มีอาการเหล่านี้บ้างรึเปล่า..

ผู้หญิงก็เหมือนกับผู้ชายน่ะแหละ เวลารักใครชอบใคร ก็ย่อมอยากใกล้ชิด สนิทสนม เป็นธรรมดา สิ่งที่แตกต่างคือ ผู้หญิงทุกคนที่อินเลิฟ จะมีความรู้สึกเช่นนั้น..และเป็นเกือบตลอดเวลา .. ต่างจากผู้ชายที่ชีวิตอาจมี เพื่อน เกม เหล้า หรือเซ็กส์ มาเป็นตัวขั้นจังหวะความคิดเรื่อง รัก (หลายครั้งที่ผู้ชายแยกเซ็กส์กับความรักไม่ออก ในขณะที่ผู้หญิงจะมีความสามารถด้านนี้มากกว่า – เริ่มนอกเรื่องล่ะ แตกกระทู้เป็นบทถัดไปละกัน) เอาล่ะ!!
จะยกตัวอย่างให้ดูในบางกรณี เช่น
1. ในกรณีเป็นเพื่อนร่วมงาน เธอจะแอบชอบคุณได้อย่างเนียน แต่ให้เพื่อนสนิทเธอที่ทำงานสังเกตว่า เธอจะกระตือรือร้น บ้างาน หรือไม่ก็เป็นคนดีเป็นพิเศษบ้างรึเปล่า ไม่ว่าจะ
– เสนอตัวเข้าไปทำงาน
“เอ ยิ้ม มีใครช่วยทำเรื่องนั้นรึยัง …”
อ๋อ พี่เค้าทำอยู่ไง แต่จะไปช่วยพี่เค้าอ่ะ อิอิ..
– เป็นคนดีเป็นพิเศษ
“ยิ้มๆ ปล่อยเราดูคนเดียวก็ได้ ยิ้มไปทานข้าวเถอะ”
ที่แท้ก็จะอยู่กับพี่เค้าสองต่อสอง
– กระตือรือร้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“เราโดดงานไม่ได้หรอก มันสำคัญมาก ยิ้มไปเที่ยวทะเลคนเดียวเถอะ (ไปไงวะคนเดียว)”
ที่แท้ก็จะได้อยู่บริษัทกับพี่เค้านั่นเอง ก๊ากๆๆๆ  หรือว่า..
– ขยันผิดปกติ
“เจ้านายคะ วันนี้หนูอยู่ดึกได้ค่ะ” (เจ้านายหล่อ) “ถึง 3 ทุ่ม 5 ทุ่มก็ได้ค่ะ”
(“อ่อ เหรอ งั้นเลิกงานไปทานข้าวกับผมมั้ย”)
อุอุ…
ถ้าตั้งแต่มีหนุ่มคนใหม่ (คุณนั่นเอง) เข้ามาในบริษัท หรือไม่ก็หนุ่มคนใดในเข้ามาในชีวิตเธอ (คุณนั่นเอง) ในฐานะเพื่อนร่วมงาน แล้วเธอมีอาการเหล่านี้นั้น ก็ ฟันธง ฟันธง…
อย่างที่บอกว่า ทฤษฎีนี้เป็น relative ต้องเทียบ before and after จะฟันธงเอก เอ๊ย ฟันธงเองไม่ได้ ดังนั้นถึงได้ต้องอาศัยข้อมูลดิบบ้างสุกบ้างจากคนใกล้ชิดของ เธอ!
2. เธอจะอยากโทรหาคุณอยู่บ่อยๆ ยามที่คุณไม่โทรมา นี่เป็นวิธีเช็คสาวที่ดี ลองหายไปสักวันสองวันดูสิ แต่แบบแหม..โทรหาผู้ชาย ก่อนมันก็กะไรๆ ทำไงดีน้า.. สร้างเรื่องดีกว่า
–  “พี่ x คะ ถามไรหน่อยค่ะ MS Word นี่เปิดไงคะ -_-” (แกล้งโง่คอม = มุกประจำของหญิงสาวผู้ใสซื่อ)
– “พี่ x ขา นี่ๆ มีเรื่องอะไรจะเม้าท์ เมื่อวันก่อนน่ะ ตาแบงค์ไปม่อสาวด้วยแหละ” (โทรไป แค่ต้องการเม้าท์เรื่องเพื่อนสนิทของฝ่ายชาย)
– “..เอ่อ..โทษทีนะคะพี่ x แต่พี่รู้ทางไปสยาม จากจุฬาฯ มั้ยคะ หนูกลัวหลงอ่าค่ะ”
(ตัวอย่างนี่กระแดะเว่อร์ไปนิด โปรดให้อภัย คือจริงๆแล้วสาวก็คงทำอะไรประมาณนี้แต่ไม่ตรงไปตรงมาอย่างงี้อ่านะ)
บางทีเธออาจจะคลำโทรศัพท์ เปิดเบอร์คุณขึ้นมาดูบ่อยๆ อ่าน messege ที่คุณส่งมาซ้ำๆ หลายๆ หน… พูดง่ายๆคือ หากคนใกล้ชิดเห็นเธอมีอาการ “เล่นโทรศัพท์” บ่อยโดยที่ไม่ได้โทรจริงซักทีเนี่ย ชัวร์…เธอกำลังคิดอยู่ว่าจะเล่นมุกอย่างไร
3. หาเรื่องนัดเจอ เธอจะพยายามหาเรื่องนัดเจอคุณโดยที่ทำได้อย่างแนบเนียนที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการขอนัดยืม CD หรือนัดกินข้าวกันเป็นกลุ่มใหญ่  แต่เธอจะถามคุณมาตรงๆรึเปล่า ก็ขึ้นกับว่าเธอเป็นคนอย่างไร ..
เห็นตัวอย่าง พอเก็ทแล้วใช่ป่ะ 😀
หากเธอหลงรักคุณเข้าแล้ว จะบอกรักเมื่อไหร่ดี

จริงๆแล้วปฏิกิริยาตอบสนองเหล่านี้ของเธอมันก็ขึ้นกับสถานการณ์ เวลา โอกาส และคาแรกเตอร์ของผู้หญิงแต่ละคน แต่หากเมื่อคุณพบว่าท่าทีกำลังสวยแล้ว พูดง่ายๆก็คือ ทุกอย่างถึงจุด “Peak” กรุณาลงมือทันทีอย่ารอช้า … ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะยิ่งช้า คุณอาจจะได้พร้าเล่มงานไปปอกแห้วกินก็ได้ ..”อารมณ์” ของคนเรา มักเป็นสิ่งที่ไม่ได้มาพร้อมกับเหตุผล หากยิ่งให้เวลาเธอตรึกตรองหรือต้องรอนานเท่าไหร่ จุด peak นั่นก็อาจจะลดลงมาเรื่อยๆ จนความสัมพันธ์กลายเป็นแบบเพื่อนไปซะแล้ว แต่ก่อนอื่น คุณจะต้องมั่นใจว่ามัน peak จริงๆ ไม่ใช่แค่กำลังขึ้นเขาแล้วคุณก็ไปสันนิษฐานเอาเองว่าถึงยอดเขาแล้ว
ถามว่าเมื่อไหร่กำลังดี ไม่ใช่ว่าเริ่มสวีทกันวันนี้ พรุ่งนี้บอกรักเลย ไม่ใช่…ช่วงเวลาที่เหมาะ คือราวๆ 1-2 เดือน (ยืดหยุ่นได้) แต่ห้ามเกิน 6 เดือน (ตัวเลขนี้มาจากไหนก็ไม่รู้ ไม่มี research รองรับหรอก ฮ่าๆๆๆ..)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *