Sansiri 2012 กับ “เรื่องเด็กๆ”

ได้ชื่อว่า “บ้าน” ก็คงรู้สึกถึงความอบอุ่น ความสบาย พักผ่อน หรือที่ ๆ เราจะนั่งทำงานได้อย่างมีอิสระ แต่บางทีเราก็มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่นอกบ้าน เพื่อรอเพื่อนหรือนัดพบปะกับใครบางคน
คงด้วยไอเดียเหล่านี้ ที่แสนสิริตัดสินใจทำ Lounge นอกบ้าน ที่ให้ความรู้สึก “เหมือนบ้าน” และไม่ใช่ “บ้านทั่ว ๆ ไป” แต่เป็น “บ้านที่มีรสนิยม” ตามสไตล์แสนสิริเค้า

เจ้าของโครงการ Sansiri Lounge ซึ่งอยู่ที่ชั้น 3 ของห้างสรรพสินค้าพารากอน ให้สัมภาษณ์สื่อว่า คอนเซ็ปต์ของ Lounge ที่นี่คือ “ห้องสมุด”

ห้องสมุดที่นี่ต่างจากที่อื่น ตรงที่ไม่ได้มีแค่หนังสือ (ซึ่งเน้นหนังสือจำพวก design) แต่เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมที่รวบรวมของแบรนด์เนมหาดูยากต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน ที่เด่นสุด ๆ ก็คือ จักรยาน Hermes 2 คัน ที่ราคานั้นซื้อรถมือสองคันเล็ก ๆ ได้สบายคันนึงเลย นอกจากนั้น ก็ยังมีของประเภท iPad Case ยี่ห้อต่าง ๆ ราคาแต่ละชิ้นนี่ไม่อยากจะนึกว่าเท่าไหร่ เพราะนึกไปก็จับจองไม่ไหว 😀


เอาเป็นว่า..ที่นี่รวบรวมของแบรนด์เนมเก๋ไก๋ไว้พอควรเลยทีเดียว คนที่ชื่นชอบแฟชั่นมาดูคงจะปลาบปลื้มเป็นแน่

ด้วยความที่เพิ่งเปิดตัวทางการไปเมื่อ 2 วันก่อน งาน #Sansiri2012 วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมาจึงไม่ใช่งานเปิดตัว Lounge ที่โฆษณาสรรพคุณต่าง ๆ แต่เป็นงานเปิดตัวโครงการ CSR ของแสนสิริประจำปีนี้ ซึ่งคือ การเน้นเรื่อง “สิทธิเด็ก” (ซึ่งเป็นประเด็นที่มาแปลก ไม่ค่อยเจอบริษัทเอกชนเล่นประเด็นนี้สักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเน้นสิ่งแวดล้อม พลังงาน ฯลฯ)

ชั้น “Library” ด้านบนของ Lounge มีหนังสือน่าอ่านเยอะไปหมด
ในส่วนของ “สิทธิเด็ก” นั้น แสนสิริทำใน 3 ส่วนด้วยกัน คือ เรื่อง นมแม่ แรงงานเด็ก และส่งเสริมให้เด็กเล่นกีฬา

1. “ส่งเสริมการดื่มนมแม่ของทารก” – ประเด็นสำคัญที่หลายคนมองข้าม

ปัญหาในปัจจุบันคือ ผู้หญิงไทยเป็น working women มากขึ้น เมื่อคลอดบุตรได้ไม่นานก็จะต้องกลับมาทำงาน ปัญหาคือที่ทำงานไม่มี facilities สำหรับมารดาไว้ปั๊มนมบุตร เพราะน้ำนมจะต้องคอยปั๊มทุก ๆ ระยะเวลาหนึ่ง และเมื่อปั๊มเสร็จแล้วก็จะต้องแช่เก็บไว้

ณ ขณะนี้ มีโครงการแสนสิริ 2 โครงการแล้วที่มีห้องสำหรับมารดาไว้ปั๊มนมและมี facilities ให้แช่นมเก็บไว้ให้บุตรได้ดื่ม

นับว่าเป็นประเด็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หลายองค์กร/สำนักงาน มองข้าม ซึ่งการมี facilities เช่นนี้ นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือแม่และบุตรแล้ว ยังจะเป็นการส่งเสริมให้มารดาที่เพิ่งคลอดบุตรสามารถกลับมาทำงานได้เร็วขึ้น เพราะมี facilities สะดวกนั่นเอง ซึ่งผู้จ้างงานก็ได้รับผลประโยชน์ด้วยเช่นเดียวกัน

2. “แรงงานเด็ก” ปัญหา classic สำหรับประเทศไทยและประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย

“แรงงานเด็ก” นั้นมีกฎหมายควบคุมอยู่แล้ว ซึ่งจะกำหนดเกณฑ์ต่าง ๆ ตามอายุของเด็ก

แสนสิริมีนโยบายว่า หากพบว่าคู่สัญญาของแสนสิริ (บริษัท contractor ทั้งหลาย) ใช้แรงงานเด็กล่ะก็…แสนสิริสามารถยุติสัญญาได้ทันที

ถ้าดูเผิน ๆ เหมือนกับว่าเป็น clause ปกติของสัญญาทั่ว ๆ ไป ที่เป็นการปกป้องบริษัทผู้ว่าจ้างไม่ให้ได้รับโทษตามกฎหมาย แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การไม่จ้าง contractor ที่ทำผิดกฎหมายนั้น ก็เท่ากับการไม่ส่งเสริมการใช้แรงงานเด็กในทางอ้อม

3. “โครงการ Let’s Play Together”

โครงการนี้เป็นโครงการใหม่ ที่แสนสิริร่วมกับ UNICEF Thailand ซึ่งเพิ่งกระโดดลงมาเล่น New Media ได้ไม่นานมานี้

คอนเซ็ปต์ไม่ยาก คือ เมื่อมีคนกดไลค์ facebook.com/UNICEFThailand ทุก ๆ 500 คน แสนสิริก็จะบริจาคอุปกรณ์กีฬา 1 เซ็ต ให้กับ 1 โรงเรียน ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ใน www.letsplaytogether.com


นอกจากจะมีการเปิดตัวโครงการ CSR เหล่านี้ ในช่วงแรกก็ยังมีงานเสวนาขนาดย่อม โดยพี่ต่าย ศรีสุดา วินิจสุวรรณ (@sresuda)จาก MCOT พี่รอน รณพงศ์ คำนวนทิพย์ (@rockdaworld) MD, Universal Music Thailand และคุณวิภว์ บูรพาเดชะ (@viphappening)บ.ก.จาก Happening Magazine มาแชร์ประสบการณ์ volunteer ของแต่ละคน ที่ใช้ social media เป็นสื่อ ซึ่งพี่ต่ายเองก็เคยลงพื้นที่ไปกับ UNICEF เช่นกัน
ของที่ระลึกที่แจกในงาน : CD จาก LOVEiS, Sansiri Signature Scent by Panpuri, Signature Tea Blend by No.57 & Signature Bedding Set by Pasaya
Sansiri Lounge ตอนนี้เปิดฟรีสำหรับบุคคลทั่วไป (ไม่ว่าจะเป็นลูกบ้านแสนสิริหรือไม่) สามารถเข้าไปลงทะเบียนและขอบัตรสมาชิกฟรีได้ที่ชั้น 3 ของพารากอน ใกล้กับร้าน Starbucks จนถึง 30 เมษายน 2555 ช้าอด…หมดโอกาส (แต่รับรองว่าคนตรึมแน่!)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *