Garden Square : The London-Style Living

ตอนกลับจากลอนดอนแรก ๆ ก็เคยคิดว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้หลงไหลลอนดอน คือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความโมเดิร์นเพรียบพร้อม และความอนุรักษ์นิยมของตึกราบ้านช่องต่าง ๆ แม้ว่าลอนดอนจะมีตึกที่สูงที่สุดในยุโรปตะวันตกอย่าง The Shard ที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จในปีนี้ และพื้นที่ธุรกิจอย่าง Canary Wharf ที่กลายมาเป็น financial capital แห่งใหม่ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่โดยเฉพาะบริเวณที่อยู่อาศัยย่านตะวันตกของลอนดอนอย่าง Kensington ก็ยังคงเป็นตึกประเภท terrace สวย ๆ ให้เราได้มีความสุขกับบรรยากาศแบบร่มรื่นในเมืองหลวงที่มีคนอาศัยอยู่กว่า 14 ล้านคนแห่งนี้

The Shard ตึกระฟ้า 72 ชั้น อยู่ไม่ไกลจาก Tower Bridge ในลอนดอนยุคปี 2012

 ส่วนนี่คือตึกราบ้านช่องบริเวณย่าน Kensington ของลอนดอน ที่ยังคงรูปแบบอนุรักษ์นิยมอยู่จนถึงทุกวันนี้ และมีราคาสูงมาก (ยูนิตหนึ่งราคาหลักร้อยล้านบาท)

Mansion block, Hans Crescent ย่าน Kensington บรรยากาศน่าอยู่จริง ๆ

คิดดูว่าจะดีขนาดไหนหากว่ากรุงเทพฯ ของเราจะสวยด้วยสถาปัตยกรรมแบบนี้กันบ้าง เพราะลำพังแค่เดินผ่านตึกราบ้านช่องก็ทำให้มีความสุขได้แล้ว คงจะทำให้บรรยากาศความเป็นเมืองน่าอยู่ขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อฝัน เพราะมีคนทำให้ฝันของเราเป็นจริงแล้วด้วยการยกตึกแบบ Kensington area เข้ามาอยุ่ใจกลางสุขุมวิท 77 โดยใช้ชื่อโครงการว่า Garden Square ตามลักษณะของโครงการกว่า 4 ไร่ ที่มีสวนเล็ก ๆ น่ารักตรงกลาง ล้อมรอบ 3 ด้านจตุรัสด้วยบ้านตามแบบที่ดัดแปลงมาจากย่าน Kensington ของลอนดอนได้อย่างแทบไม่น่าเชื่อ..

Sansiri, London styleภาพสวนใน Garden Square ขนาดรั้วที่ล้อมรอบสวนก็ยังสไตล์เหมือนกับที่ลอนดอน

อีกฟากหนึ่งของจตุรัส Garden Square โครงการนี้มีทั้งหมด 34 ยูนิต

เจ้าของโครงการ Garden Square นี้ ก็มิใช่ใครอื่นนอกจากแสนสิริ Property Developer ซึ่งไม่เคยน้อยหน้าใครในเรื่องของคุณภาพและความแปลกใหม่ รวมทั้งอย่างที่หลายท่านทราบว่า แสนสิริเองก็ได้ไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในย่านที่อยู่อาศัยหรูของลอนดอนด้วยเหมือนกัน รวมทั้งเจ้าของบริษัทและลูกหลานก็ได้เรียนจบจากประเทศอังกฤษหลายคน โครงการ London-style property นี้ก็คงเป็นโครงการในฝันของผู้สร้าง ไม่ต่างไปจากกลุ่มลูกค้าด้วยเช่นกัน

คุณสุริยะ (ขวา) และคุณมนู (กลาง) กำลังเล่าถึงแนวคิดที่มาและประสบการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาโครงการ Garden Square และประสบการณ์มัน ๆ จากลอนดอน

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมามีการเปิดตัวโครงการ Garden Square ซึ่งผู้บริหาร 2 ท่าน ของแสนสิริ คือ คุณสุริยะ วรรณบุตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการและการตลาด และคุณมนู ตระกูลวัฒนะกิจ ผู้อำนวยการแผนกนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้มาบอกเล่าถึงแนวคิดที่มาเกี่ยวกับโครงการว่าต้องการทำโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าหลากหลาย โดยให้คุ้มค่าที่สุด คุณสุริยะบอกว่า “เราทำ [อสังหาริมทรัพย์] ทุก segment แต่เราต้องรักษามาตรฐาน ให้ทำทาวน์เฮ้าส์ 5 แสน …ผมไม่ทำ” ตอกย้ำความคิดแบบแนว ๆ ของแสนสิริที่ว่า ทำอะไรต้องทำให้ได้คุณภาพตามแบบฉบับของเขา ตรงไปตรงมาและได้ใจความดีจริง ๆ

คุณสุริยะเล่าว่า พื้นที่ 4 ไร่ ของโครงการ Garden Square นี้ สามารถนำไปทำเป็นคอนโดได้เช่นกัน แต่เมื่อเป็นคอนโด ก็จะมี cost ค่าลิฟท์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส แต่ละยูนิตขนาดเล็กลง แต่ที่สำคัญคือ ราคาต่อ ตร.ม. จะเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงตัดสินใจทำเป็นบ้านในลักษณะที่คนไทยเรียกกันว่า ทาวน์เฮ้าส์ แต่แปลกใหม่และไม่ได้มุ่งเป้าไปที่คนที่ไม่สามารถ afford บ้านเดี่ยว แต่เป็นกลุ่มที่ต้องการบ้านแบบลอนดอนใจกลางกรุงเทพฯ จริง ๆ “เรามุ่งไปที่คนมีเงินซื้อบ้านเกิน 10 ล้าน เราจะทำบ้านแบบ London Style ซึ่งหากทำบ้านเดี่ยว (detached) ก็ไม่ใช่ลอนดอน ต้องยกมาทั้งแผง (terrace)”

คุณสุริยะยังอธิบายต่อว่า “คนกลุ่มนี้เป็นเมมเบอร์ sport club กันหมดแล้ว ดังนั้น Garden Squares เราไม่ต้องมี facilities จำพวกสระว่ายน้ำให้สิ้นเปลือง แต่เราจะเพิ่มห้องสำหรับ maid และที่จอดรถ 2 คัน ซึ่งไม่ต้องไปแย่งกับใคร” ใครอยู่คอนโดคงทราบดีว่า ประสบการณ์แย่งที่จอดรถในคอนโดนั้น ไม่สนุกเอาเสียเลย และนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ Garden Square ต้องปรับเล็กน้อยจากสภาพปกติของลอนดอนซึ่งไม่มีที่จอดรถในบ้าน ให้เหมาะกับสภาพของวิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ

จากนั้น คุณสุริยะก็ได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ถูกส่งไปดูงานจริงที่ลอนดอนในช่วงฤดูหนาว โดยเป็นการเดินทางไปเพื่อเริ่มต้นทำโครงการนี้โดยเฉพาะ สำหรับคุณมนู ผู้เป็น designer หลักของโครงการ ก็เคยถูกส่งไปเรียนคอร์ส 2 สัปดาห์ในลอนดอนเช่นกัน

ชา Twinings ที่ฮิตที่สุดของอังกฤษ

งานเปิดตัว Garden Square นี้ พยายามจะจัดให้ดูเป็นบรรยากาศแบบอังกฤษ ๆ ซึ่งก็นับได้ว่า ทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะอย่างขนมที่เสิร์ฟก็พยายามเลือกให้มีความเป็นอังกฤษที่สุด เช่น เสิร์ฟสโคน หรือพายหมู-ไข่ (ซึ่งคาดว่าน่าจะดัดแปลงมาจาก Scotch egg)

สโคนแบบดัดแปลงเล็กน้อย คือนำ clotted cream และแยมมาใส่ตรงกลางเลย ไม่ต้องป้ายเอง

นั่งจิบชา พยายามจะเป็นพรีเซนเตอร์ให้บ้าน London style

ถ่ายภาพโพลารอยด์และให้เราเล่นประดิษฐ์กุ๊กกิ๊ก

ตู้โทรศัพท์แบบอังกฤษ แต่ไม่มีกระจกและไม่มีโทรศัพท์ (ฮา)

งานนี้ได้เปิดให้ชมบ้านตัวอย่างซึ่งมี 4 ชั้น รวมแล้ว 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องแม่บ้านและห้องน้ำแม่บ้าน 1 ห้องอเนกประสงค์ และ 1 ระเบียงชั้นบนสำหรับการจัดปาร์ตี้ ความคิดแรกที่เข้าไปคือ เหมือนอังกฤษมากที่สุดเลยคือ “บันได” ที่พุ่งขึ้นชั้น 2 ในทันที แม้ว่าจะไม่มีบันไดลงไปชั้นใต้ดินก็ตาม ส่วนบรรยากาศอื่น ๆ นั้น Garden Square ได้ดัดแปลงให้เข้ากับวิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ ไม่ต้องห่วงว่าจะได้ห้องน้ำขนาดเล็กเหมือนลอนดอน ห้องส้วมแยกกับห้องอาบน้ำ ไม่มีสายยางฉีดน้ำสำหรับส้วม หรือแยกก๊อกน้ำเย็นกับน้ำร้อนโดยเด็ดขาด อะไรก็ตามที่ทำให้วิถีชีวิตเราอยู่ยากขึ้น แบบนี้ไม่มี แสนสิริไม่ได้นำมา…

แคต @redlovetree หน้าบ้าน 9/9 เลขสวยเบอร์วีไอพี (ฟอนต์ตัวเลขยังให้ความรู้สึกเป็นอังกฤษเลย)

วิว Garden Square จากในบริเวณบ้าน

บันไดขึ้นไปชั้นบน อยู่หน้าบ้านแบบอังกฤษเลย ^^

ก๊อกในห้องน้ำแบบทันสมัย ไม่ใช่ก๊อกอังกฤษที่ต้องแยกน้ำร้อนและน้ำเย็นออกจากคนละหัว (เพื่ออะไรไม่รู้)

ระเบียงชั้นบน ข้าง ๆ ห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่น ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจหรือจัดปาร์ตี้อย่างเป็นส่วนตัว ไม่ต้องกลัวใครจะมองเห็นเรา

ปิดท้ายกันด้วยภาพชัด ๆ ของด้านหน้าแต่ละยูนิตของ Garden Square

มาถึงตรงนี้ก็คือ ข้อมูลที่ทุกคนคงอยากทราบมากที่สุดว่า “ราคาเท่าไหร่?” ทางโครงการตอบมาว่า เริ่มต้นที่ 11.5 ล้านบาท/ยูนิต ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยรวม 250 ตร.ม. บนที่ดิน 23 ตร.วา (92 ตร.ม.) คิดเฉลี่ยแล้วตกพื้นที่ใช้สอย ตร.ม. ละ 46,000 บาท ถูกกว่าเมื่อเทียบกับคอนโดแสนสิริทั่วไป (ซึ่งปัจจุบันทะยานไประดับแสนกว่า ๆ ต่อ ตร.ม. แล้ว)

แต่ถ้าจะให้คุ้มค่าขึ้นไปอีก จะต้องนำไปเทียบกับบ้านแถบ Kensington ในลอนดอน ซึ่งทุกท่านทราบไหมว่า เขาขายกันเป็น “ตร.ฟุต” ค่ะ ซึ่งตกราว ๆ ตร.ฟุต ละ 1,000-1,500 ปอนด์ ในบริเวณนั้น คิดเป็นเงินไทยก็เอาเป็นว่าเฉลี่ย 7 หมื่นบาท/ ตร.ฟุต ถ้าคิดเป็น ตร.ม. ก็ราว ๆ 7 แสน สำหรับบ้านแบบ Garden Square ที่มีพื้นที่ใช้สอย 250 ตร.ม. นั้น คูณไปมาก็ตกราว ๆ 175 ล้านบาท! ดังนั้น Garden Square ก็นับได้ว่า ถูกกว่า Kensington ประมาณ 17 เท่า 🙂

หอมปากหอมคอกันไปแล้ว ขอให้โชคดีกับการค้นหาบ้านในฝันนะคะ และถ้ามีโอกาสสักครั้งก็อยากจะแนะนำให้ไปเที่ยวลอนดอนกัน แล้วคุณจะหลงรักเมืองและตึกราบ้านช่องของที่นั่น..


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *